วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สวดมนต์ข้ามปี ดีต่อใจ ใครก็ทำได้ ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมสวดมนต์ข้ามปี วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ หอพระแก้วโกเมน วัดมณีวนาราม


ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมสวดมนต์ข้ามปี วันที่ ๓๑  ธันวาคม ๒๕๖๑
ณ หอพระแก้วโกเมน วัดมณีวนาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

 วัดมณีวนารามขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมสวดมนต์ข้ามปีในวันที่ ๓๑  ธันวาคม ๒๕๖๑ เพื่อเสริมสริมงคลแก่ชีวิตก่อนจะถึงปีใหม่ 
     
           ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทางวัดมณีวนารามได้เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้สักการะขอพรหลวงพ่อพระแก้วโกเมนเเละร่วมสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งทางวัดได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในปีนี้จัดระหว่างวันที่  ๓๑  ธันวาคม ๒๕๖๑ ถึง ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ต้อนรับปีใหม่ด้วยวิถีพุทธ คือ การสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ  สังฆคุณ และเจริญจิตภาวนา เริ่มต้นสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต

      ฉะนั้นจึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านมาร่วมสวดมนต์ข้ามปี ทำความดี  สร้างกุศลบุญบารมีร่วมกัน  ใน วันที่ ๓๑  ธันวาคม ๒๕๖๑ เพื่อถวามเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ หอพระแก้วโกเมน วัดมณีวนาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง  จังหวัดอุบราชธานี

   สวดมนต์ข้ามปี  ดีต่อใจ ใครๆก็ทำได้

 บทพระพุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชา จะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถา
เทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ
บทพระธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ
บทพระสังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ


บทสวดคาถาโพธิบาท  คาถาป้องกันภัย ๑๐ ทิศ


บูระพารัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
บูระพารัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

อาคะเนยรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
อาคะเนยรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

ทักษิณรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
ทักษิณรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

หรดีรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
หรดีรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

ปัจจิมรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
ปัจจิมรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

พายัพรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
พายัพรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

อุดรรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
อุดรรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

อิสานรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
อิสานรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

อากาศรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
อากาศรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ

ปฐวีรัสมิง พระพุทธะคุณัง บูระพารัสมิง พระธัมเมตัง
ปฐวีรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์
สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ


.....ชยวุฑโฒ

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สถานที่ต้องห้าม...พลาดในอำเภอคำชะอี "สะพานบุญ" บึงเกาะแก้วมณีสังวาลย์


สะพานบุญ สร้างขึ้นเพื่อทดแทนสะพานเก่าที่ชำรุด ซึ่งเป็นสะพานที่พระภิกษุ สามเณร ที่จำพรรษาในบึงเกาะแก้วมณีสังวาลย์ (บึงหนองบง) ไว้ใช้ข้ามไปมาในการทำกิจวัตร เช่น  บิณฑบาตเป็นต้น

สะพานบุญ เกิดจากการร่วมแรงร่วงใจของชาวบ้านได้สร้างขึ้น  ตั้งอยู่บริเวณบึงหนองบง บ้านหนองบง ตำบลหนองเอี่ยน อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ถ้าเราเดินทางมาจากตัวจังหวัดมุกดาหารจะอยู่ซ้ายมือ แต่ถ้าเรามาจากตัวอำเภอคำชะอีจะอยู่ขวามือ

 เป็นสะพานที่เหมาะสมสำหรับท่านที่ชอบถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง รับรองได้ภาพสวยๆไปโพสต์อย่างแน่นอน แนะนำให้มาเวลาเย็นจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินด้วย

ถ่ายภาพยังไม่พอยังมีโอกาสได้กราบพระ ทำบุญอีกด้วยและในกลางเกาะนี้ยังมีรูปปั้น ปู่นาค ย่านาคี ที่กำลังก่อสร้างท่านใด ประสงค์จะร่วมบุญก็สามารถไปร่วมสร้างบารมีกันได้


ถ้าผ่านไปผ่านมาอย่าลืมแวะนะ ห้ามพลาดเป็นเด็ดขาด

ใกล้ตา ไกลตีน

ชีวิตที่ขาดเป้าหมาย
ไม่ต่างอะไรจากเรือที่ไร้เข็มทิศ
มันย่อมลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทร
คนเราก็เช่นกันถ้าขาดเป้าหมายในการดำเนินชีวิตแล้ว
ชีวิตในแต่ละวันคงเฉื่อยชาหมดหวัง
ไร้ความตื่นเต้น
เหมือนวัวในโรงฆ่าสัตว์
ที่นั่งนอนรอวันตายเท่านั้น
.
เป้าหมายในชีวิตของคนเราย่อมแตกต่างกันไป
จำแนกตามความชอบ ความเชื่อ ความฝัน และอื่นๆ
บางคนตั้งเป้าหมายไว้ใกล้ใช้เวลาเดินไปไม่นานก็ถึง
(แต่ไม่เสมอไป)
.
บางคนตั้งเป้าหมายไว้ไกล
ต้องใช้เวลานาน
และอาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตก็ได้ ถึงจะสำเร็จ
(ไม่เสมอไปเช่นกัน)
.
ทุกคนต่างมีเป้าหมาย
แต่ใช้ว่าทุกคนจะไปถึง
.
บางทีคนเราก็เปลี่ยนเป้าหมายอยู่เรื่อย
เห็นคนนี้ทำแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จ
ก็อยากทำเหมือนกันกับเขา ละทิ้งเป้าหมาย
ของตนแล้วมาวิ่งตามหลังคนอื่น
.
พอถึงจุดๆหนึ่งเริ่มเจอความยากลำบาก
ก็เริ่มเหนื่อย เริ่มท้อ
เริ่มตั้งคำถามว่า
ทำไมเราไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งที่เราก็ทำเหมือนกันกับเขาทุกอย่าง
.
เพราะอะไรนะหรือ?
เพราะมันไม่ใช่ทางของเราไง
.
ความสำเร็จของคนอื่นที่เราเห็น
มันช่างสวยงามนัก
 ชวนน่าหลงใหลจนเราลืมไปว่า
กว่าเขาจะมาถึงจุดๆนี้นั้น
เขาต้องใช้เวลา ความอดทน
และความพยายามมากขนาดไหน
ถึงจะประสบความสำเร็จ
.
จงกลับมาเดินตามทางของตนซะ
.
เป้าหมายที่มองเห็น
ดูเหมือนจะใกล้สำหรับสายตา
แต่ความจริงมันอยู่แสนไกล
สำหรับเท้าที่จะเดิน
 .
เหมือนกับภูเขา
สายตาที่เรามองเห็นดูเหมือนมันจะอยู่ใกล้ๆและเล็กๆ
แต่เอาเข้าจริงแล้วมันอยู่ตั้งไกลและยิ่งใหญ่
เมื่อได้เอาเท้าลงไปเดิน
.
ก่อนขึ้นภูผาซาน
พระอาจารย์หนาว กับพระอาจารย์โจ
ท่านได้เอ่ยประโยคหนึ่งเชิงขำขัน
ขึ้นมาว่า ใกล้ตา ไกลตีน
.
ตอนแรกผู้เขียนก็ยังไม่เข้าใจแน่ชัด
จนได้สัมผัสความหมายของประโยคนี้
เข้าจริงๆ
.
ก็ตอนที่ต้องแบกร่างกายของชายวัย ๒๓(ตัวเอง)
น้ำหนัก ๖๕ ขึ้นผาต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลก
.
ไกลจริงๆ
.
ภูเขาลูกที่เราขึ้นเป็นลูกเดียวกัน
กับภูเขาที่เรามองเห็นแล้วคิดว่า มันอยู่ใกล้
แท้จริงแล้ว...โอ้โห้
.
ประโยคนี้ของ พระอาจารย์ทั้งสอง
ลึกซึ้งยิ่งนัก ใกล้สำหรับตาที่มอง แต่ไกลสำหรับเท้าที่จะเดิน
.
เหมือนกับเป้าหมายในชีวิตเรานั้นแหละ
ความสำเร็จมันเหมือนจะอยู่ใกล้ๆ
แต่ที่จริงแล้วระยะทางที่จะไปหา
ความสำเร็จนั้นช่างไกลเหลือเกิน
.
แต่มันก็ไม่ไกลเกินกว่าความพยายามของคนหรอกนะ
ถ้าเราเลือกเดินทางที่ใช่สำหรับเรา
#หลวงพี่มหาแต้ม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

หาบฝันส่งลูกเรียน

ในยุคที่การศึกษาต้องอาศัย
เงินทองมายมากเป็นตัวขับเคลื่อน
ไม่มีเงิน-เรียนไม่จบ
เงินไม่สำคัญ แต่ดูเหมือนมันจะจำเป็น
ที่สุดในการส่งลูกเรียน
.
วันก่อนเดินไปเจอแม่ค้ากำลัง
หาบของขาย ในสาแหรกคงหนักน่าดู
สังเกตจากของที่หาบมา
.
ต้องทนหาบขายทั้งวัน
เพื่ออะไร?
ถ้าไม่ใช่ปากท้องของครอบครัว
และส่งลูกเรียน ประโยคที่ว่า
เรียนเหนื่อย แต่คนส่งเรียนเหนื่อยกว่า
น่าจะใช้ได้
.
เด็กสมัยนี้บางคนความอดทนต่ำ
ไปเรียนก็บ่นเหนื่อย แต่กับสนุกสนาน
เมื่อได้ไปเที่ยวเตร่กับเพื่อน
คนใช้เงินอาจจะสบาย แต่คนหาเงินนั้นลำบาก
.
ลองฉุกคิดนิดหนึ่งว่า
ทุกวันนี้ใครส่งเราเรียน
เราทำตัวสมกับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแล้วหรือยัง
 .
ลองตอบตัวเองดูเถิด

หลวงพี่มหาแต้ม

ผ้าที่เคยขาว



ในเวลาที่เราอยู่ท่ามกลางความมืดมิด แสงสว่างคงเป็นสิ่งเดียวที่เราต้องการในขณะนั้น ความมืดภายนอกเป็นเรื่องง่ายดายนักในการหาแสงสว่าง แต่ความมืดภายในใจอาจจะเป็นการยากที่จะแสวงหา ว่ากันว่าใจคนเราแรกเริ่มเปรียบเหมือนผ้าขาวสะอาดไร้มลทิน ไร้จุดด้างดำ พอผ่านไปเริ่มเติบโตขึ้นผ้าที่เคยขาวก็เริ่มค่อยๆเปลี่ยนสี เพราะถูกย้อมด้วยความโลภความโกรธความหลง ความอิจฉาริษยา ความเกลียดชัง ความกลัวและอีกมากมายจนเป็นสีดำสนิทอันนี้น่ากลัวยิ่งนัก

ความมืดของจิตใจไม่ส่งผลกระทบเพียงตนเท่านั้น ใครอยู่ใกล้ก็ต้องโดนความมืดนี้กลืนกินไปด้วย บุคคลประเภทนี้ผู้ใดหลงไปคบเข้าไม่ต่างอะไรจากการพาตัวเองไปลงนรก

คนชั่วที่รู้ว่าตัวเองชั่วยังไม่น่ากลัวเท่าคนชั่วที่คิดว่าตัวเองดี อันนี้น่าคิดลองสำรวจดูสิว่าจิตใจเราเป็นแบบไหน
เป็นผ้าขาว
เป็นผ้าที่เคยขาว
เป็นผ้าที่ดำสนิท
หรือเป็นผ้าที่กำลังจะขาว

เป็น ผ้า ขาว ประเภทนี้หายากที่สุดในสังคมปัจจุบัน เพราะคน ประเภท นี้ เขา ต้อง บริสุทธิ์ 100% ทั้ง กาย วาจา ใจ ไม่เจือปนเรื่อง ชั่ว ๆ เลย

เป็น ผ้า ที่ เคย ขาว ประเภทนี้เห็นกันทั่วไปคนที่เคยดีแต่ไม่เข้มแข็งถูกกิเลสดึงตาดึงใจมัวเมาจนลืมไปเลยว่าเคยเป็นคนดี ดัง ที่ เขา ว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป ว่า กัน ไป นั้น

เป็น ผ้า ดำ สนิท ปราศจากสีขาวเจือปนบุคคลประเภทนี้เห็นกันมากในสังคมเราปัจจุบัน ก่อกรรมทำเข็ญ ฆ่าคนอื่นอย่างเลือดเย็น เห็น ผิด เป็น ถูกเห็น ถูก เป็น ผิด คนเเบบนี้น่ากลัวๆ

เป็น ผ้า ที่ เคย ดำ คนแบบนี้น่าให้กำลังใจเพราะคนเราจากคนชั่วจะกลับมาเป็นคนดีได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยที่ต้องต่อสู้กับใจตัวเอง ต่อสู้กับสังคมเพื่อให้สังคมย้อมรับ คน กลับ ตัว กลับ ใจ ควร ให้ กำลังใจกันนะ

เเต่ช่างมันเถอะไม่ว่าคุณจะเป็นผ้าแบบไหนคุณก็ต้องพิจารณาเอาเอง เหมือนกับผู้เขียนที่กำลังพิจารณาดูนี่แหละ

ความมืดในใจของใครของมันนะ ใคร มี ก็ ทุกข์


วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ตารางสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม(พระพุทธศาสนา) พระมหาณัฐพงศ์ ชยวุฑฺโฒ นิสิตปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา



ตารางสอนชั้นประถมศึกษาปีที่  4
วิชา  สังคมศึกษา  ศาสนา  และวัฒนธรรม(พระพุทธศาสนา)
พระมหาณัฐพงศ์  ชยวุฑฺโฒ   นิสิตปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา
วัน/เวลา
09.00 – 10.00
10.00  -  11.00
11.00  -  12.00
13.00  -  14.00
14.00 -15.00
15.00  -  16.00
ชั่วโมง
1
2
3
4
5
6
จันทร์

4/7




อังคาร
4/3


4/1
4/8

พุธ



4/4


พฤหัสบดี

4/5




ศุกร์

4/6

4/2




วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ถอดบทเรียนสัปดาห์ที่ ๑ นิสิตปฏิบัติหน้าที่สอน โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม


ถอดบทเรียนสัปดาห์ที่ ๑ นิสิตปฏิบัติหน้าที่สอน กับนักเรียน ป.4
...
1.การสังเกตบริบทของสถานที่ศึกษาควรทำ
2.หมั่นปรึกษาครูพี่เลี้ยงอยู่เนืองนิตย์ ฟังคำแนะนำบ่อยๆ
3.ไม่เข้าใจอะไรต้องถามอย่าเดาสุ่มสี่สุ่มห้า
4.เตรียมตัวดีมีชัยในการสอน วางแผนให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
5.เปลี่ยนบทเรียนพระพุทธศาสนาให้เป็นเรื่องสนุกจะดีมาก
6.คนสอนสนุก ผู้เรียนสนุก คนสอนน่าเบื่อ นักเรียนก็เบื่อ
7.ควบคุมอารมณ์ให้นิ่งเมื่ออยู่กับเด็ก
8.กิจกรรมควรตื่นเต้นการแข่งขันเด็กชอบ
9.หัดชมเด็กที่ทำดี แต่พองาม
10.คำพูดใดที่เราไม่ชอบอย่าพูดกับเด็ก
11.ให้ใ้บงานเด็กควรให้เสร็จในคาบจะดีมากเลย(ยกเว้นการบ้าน)
12.เรื่องเล่านิทานควรมีอย่างยิ่ง หัวเราะแบบมีข้อคิดเหมาะสมตามบทเรียน
13.สรุปสั้นๆแต่น่าฟังและเด็กได้ความรู้
14.ตั้งคำถามปลายเปิด อย่าปิดกั้นในสิ่งที่เด็กรู
15.ทบทวนบทเรียนก่อนสอนจะทำให้แม่นยำขึ้น
16.เมื่อนักเรียนคนไหนเสียงดังให้โยนคำถามไปให้คนนั้น
17.เด็กกลัวคำถามก็มี แต่กล้าตอบคำถามก็มี
18.กิจกรรมกลุ่มไม่ควรเกิน4คน
19.ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน ทำให้เห็น
20.วิธีสอนอินฟินิตี้ สำคัญอยู่ที่ผู้เรียนได้ความรู้อะไร
#หลวงพี่มหาแต้ม

ข้อมูลทั่วไปของสถานศึกษาฝึกประสบการณ์การวิชาชีพ โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม(ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ





ข้อมูลพื้นฐาน โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม(ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ



1.สภาพทั่วไป

ประวัติสถานศึกษา

   โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนราม  เป็นโรงเรียนแห่งแรกในภูมิภาคนี้ ที่เกิดขึ้นโดยกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

        เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกช่อฟ้าอุโบสถวัดศรีอุบลรัตนาราม
อำเภอเมืองอุบลราชธานี  จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่  ๒๙  มีนาคม  พ.ศ.๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกับ
อธิบดีกรมการศาสนา(พันเอกปิ่น  มุทุกันต์) ณ ท่าอากาศยานอุบล ฯ  ก่อนเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเครื่องบินว่า
"ถ้าได้มีโรงเรียนสำหรับเด็ก ๆ ขึ้นไว้
ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม  โดยเป็นโรงเรียนของวัด
 และให้พระสงฆ์ได้บำเพ็ญประโยชน์
ในทางอบรมสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาก็จะเป็นการดี"
เมื่อได้รับพระราชดำรัสใส่เกล้าฯ แล้ว อธิบดีกรมการศาสนา ได้อัญเชิญพระราชดำรัสดังกล่าวไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นายสอาด  เหมศรีชาติ  - รองผู้ว่าราชการจังหวัด - รักษาราชการแทนผู้ว้าราชการจังหวัด -) (ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัด คือ  พลตำรวจตรีวิเชียร  สีมันตระ)
เจ้าอาวาสวัดศรีอุบลรัตนาราม(พระครูวิจิตรธรรมภาณี)  พระเถระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง อันมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์เป็นประธาน รวมทั้งคุณหญิงตุ่น  โกศัลวิตร คหปตานีผู้อุปถัมภ์วัด เพื่อร่วมกันดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชประสงค์

       เมื่อได้ทราบพระราชประสงค์แล้ว ต่างก็มีความยินดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น คุณหญิงตุ่น  โกศัลวิตรได้แจ้งกับอธิบดีกรมศาสนา ว่า ตนพร้อมที่จะดำเนินการจัดสร้างโรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ และจะจัดตั้งมูลนิธิบำรุงโรงเรียนนั้นไว้ให้ถาวร
และได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต ถวายมูลนิธิไว้ในพระอุปถัมภ์ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี
ซึ่งก็ได้รับพระมหากรุณา  ทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์การก่อสร้างได้ดำเนินขึ้นเมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จแทนพระองค์ในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารโรงเรียน ในวันพฤหัสบดีที่
  ๔  กันยายน  พ.ศ.๒๕๑๒
        กรมการศาสนาได้จัดทำแผนผังวัดขึ้นใหม่ โดยแบ่งเขตพุทธาวาส  เขตสังฆาวาส  และเขตสาธารณสงเคราะห์ให้เป็นที่ตั้งโรงเรียน   แยกกันเป็นสักส่วน ซึ่งวัดศรีอุบลรัตนารามได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ของวัด ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  เนื้อที่ ๔ ไร่ เป็นบริเวณที่ก่อสร้างโรงเรียน  อาคารประกอบ  และสนามของโรงเรียน
ในการก่อสร้างคุณหญิงตุ่น  โกศัลวิตร  ได้บริจาคเงินค่าก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่  ทั้งเป็นผู้ควบคุมดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ สิ้นค้าก่อสร้างทั้งสิ้น  ๑,๘๕๐,๐๐๐ บาท เป็นอาคารเรียนทรงไทย ๓ ชั้น  มี ๒๔ ห้องเรียน ตัวอาคารเรียน ยาว ๗๗ เมตร  กว้าง ๙.๕๐ เมตร แต่ละห้องมีขนาด  ๙ x ๗  เมตร
          โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานทุนในการก่อสร้างและดำเนินการ เริ่มแรก  ๑๗๒,๐๐๐ บาท และทุนส่วนตัวของคุณหญิงตุ่น  โกศัลวิตร ๑,๖๗๘,๐๐๐ บาท
เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จโรงเรียนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดป้ายอาคารเรียน
โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนราม เมื่อวันเสาร์ที่  ๒๗  พฤศจิกายน  พ.ศ.๒๕๑๔ เวลา  ๑๖.๐๐ น.
           และมูลนิธิโรงเรียนวัดศรีอุบลรัตนารามได้มอบอาคารเรียนให้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ  จัดตั้งเป็นโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรมวิสามัญศึกษา และ จากประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ได้ใช้ชื่อโรงเรียนในครั้งนั้นว่า "โรงเรียนศรีอุบลรัตนาราม"  และให้โรงเรียนนี้  สังกัดแผนกมัธยมศึกษา  กองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา  ตั้งแต่ปีการศึกษา  ๒๕๑๔  เป็นต้นไปประกาศ   ณ วันที่  ๒  กรกฎาคม  ๒๕๑๔
โดย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุกิจ  นิมมานเหมินท์
         ต่อมา มูลนิธิโรงเรียนวัดศรีอุบลรัตนารามมีความเห็นว่า โรงเรียนนี้สร้างขึ้นเพื่อสนองพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้มูลนิธิโรงเรียนวัดศรีอุบลรัตนารามอยู่ในพระอุปถัมภ์ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา โรงเรียนนี้ควรจะใช้ชื่อว่า "โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนราม  (ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี)" 
จึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการผ่านไปยังสำนักราชเลขาธิการ เพื่อนำความกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต ให้โรงเรียนวัดศรีอุบลรัตนาราม อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา และขนานนามโรงเรียนตามที่เสนอขอ
สำนักราชเลขาธิการได้แจ้งเป็นหนังสือให้ทราบว่า ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานชื่อโรงเรียนวัดศรีอุบลว่า

"โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนราม   (ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี)"

ลงวันที่  ๒๘  ตุลาคม  พ.ศ.๒๕๑๔


2.สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน

     2.1 ตราโรงเรียน
       

2.2 สีประจำโรงเรียน   สีม่วง

2.3 คำขวัญ/ปรัชญา/ดอกไม้ประจำโรงเรียน
          






3.โครงสร้างผู้บริหาร













วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

ห้ามพลาด ๑ ปี มี ๑ ครั้ง งานสรงน้ำหลวงพ่อพระเเก้วโกเมน วัดมณีวนาราม ๑๑ -๑๖ เมษายน ๒๕๖๑


           เช้าของวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๑  เวลา ๐๘.๓๐น. ท่านสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางมาเป็นประธานในพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระเเก้วโกเมนลงมาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีหน้าหอพระแก้วโกเมน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้สรงน้ำของพรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดย พระเทพวราจารย์ เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี  พร้อมด้วยคณะสงฆ์ อุบาสก-อุบาสิกา วัดมณีวนาราม ให้การต้อนรับ 

        งานสรงน้ำพระเเก้วโกเมนวัดมณีวนาราม(วัดป่าน้อย)ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี  ในปีนี้ได้เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนสรงน้ำพระเเก้วโกเมนในระหว่างวันที่ ๑๑ -๑๖ เมษายน  ๒๕๖๑ ตั้งแต่เวลา ๐๗.๓๐ - ๑๗.๐๐ น. และจะอัญเชิญขึ้นในวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๑ 


            พระแก้วโกเมนถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญอีกองค์หนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานีที่มีประวัติมายืนยาวนาน ๑ ปี มี ๑ ครั้งเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้สรงน้ำของพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต เพราะฉะนั้นจึงห้ามพลาดอย่างยิ่ง

ชยวุฑฺโฒ




วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561

ร่วมใจอาสา สานรัก สานสัมพันธ์ สร้างสรรค์ชุมชนให้น่าอยู่


       เมื่อวันที่ ๑๐ - ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๑ กลุ่มนิสิตจิตอาสาจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี และวิทยาเขตขอนแก่น ร่วมกับภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และชมรมยุวอาสา ต้นกล้าวัฒนธรรม จังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมกันจัดค่ายร่วมใจอาสา สานรัก สานสัมพันธ์ สร้างสรรค์ชุมชนให้น่าอยู่ ณ ชุมชนบ้านโนนจิก ต.ฝากคำ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี โดยประกอบไปด้วยกิจกรรมมากมาย เช่น 
ส่งธรรมสู่ชุมชน
พัฒนาวัดในชนบท
ทำต้นไม้สอนธรรม
 ปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียน
 ตักบาตรถนนสายวัฒนธรรม
มอบอุปกรณ์การเรียนการกีฬา
กิจกรรมพี่สอนน้อง โดยการเสริมสร้างทักษะนักเรียนด้านภาษา

      กิจกรรมนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสเข้าพัฒนาชมชุนให้น่าอยู่และมีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน เป็นกิจกรรมที่ดีควรสานต่อสืบไป






      






โพสต์แนะนำ

แล้วมันจะผ่านไปจริงๆ

                                สักวันหากคุณเจอ เรื่องราวร้ายๆ   ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  เรื่องที่คุณไม่สามารถ แก้ไขอะไรมันได้   ...