ในเวลาที่เราอยู่ท่ามกลางความมืดมิด แสงสว่างคงเป็นสิ่งเดียวที่เราต้องการในขณะนั้น ความมืดภายนอกเป็นเรื่องง่ายดายนักในการหาแสงสว่าง แต่ความมืดภายในใจอาจจะเป็นการยากที่จะแสวงหา ว่ากันว่าใจคนเราแรกเริ่มเปรียบเหมือนผ้าขาวสะอาดไร้มลทิน ไร้จุดด้างดำ พอผ่านไปเริ่มเติบโตขึ้นผ้าที่เคยขาวก็เริ่มค่อยๆเปลี่ยนสี เพราะถูกย้อมด้วยความโลภความโกรธความหลง ความอิจฉาริษยา ความเกลียดชัง ความกลัวและอีกมากมายจนเป็นสีดำสนิทอันนี้น่ากลัวยิ่งนัก
ความมืดของจิตใจไม่ส่งผลกระทบเพียงตนเท่านั้น ใครอยู่ใกล้ก็ต้องโดนความมืดนี้กลืนกินไปด้วย บุคคลประเภทนี้ผู้ใดหลงไปคบเข้าไม่ต่างอะไรจากการพาตัวเองไปลงนรก
คนชั่วที่รู้ว่าตัวเองชั่วยังไม่น่ากลัวเท่าคนชั่วที่คิดว่าตัวเองดี อันนี้น่าคิดลองสำรวจดูสิว่าจิตใจเราเป็นแบบไหน
เป็นผ้าขาว
เป็นผ้าที่เคยขาว
เป็นผ้าที่ดำสนิท
หรือเป็นผ้าที่กำลังจะขาว
เป็น ผ้า ขาว ประเภทนี้หายากที่สุดในสังคมปัจจุบัน เพราะคน ประเภท นี้ เขา ต้อง บริสุทธิ์ 100% ทั้ง กาย วาจา ใจ ไม่เจือปนเรื่อง ชั่ว ๆ เลย
เป็น ผ้า ที่ เคย ขาว ประเภทนี้เห็นกันทั่วไปคนที่เคยดีแต่ไม่เข้มแข็งถูกกิเลสดึงตาดึงใจมัวเมาจนลืมไปเลยว่าเคยเป็นคนดี ดัง ที่ เขา ว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป ว่า กัน ไป นั้น
เป็น ผ้า ดำ สนิท ปราศจากสีขาวเจือปนบุคคลประเภทนี้เห็นกันมากในสังคมเราปัจจุบัน ก่อกรรมทำเข็ญ ฆ่าคนอื่นอย่างเลือดเย็น เห็น ผิด เป็น ถูกเห็น ถูก เป็น ผิด คนเเบบนี้น่ากลัวๆ
เป็น ผ้า ที่ เคย ดำ คนแบบนี้น่าให้กำลังใจเพราะคนเราจากคนชั่วจะกลับมาเป็นคนดีได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยที่ต้องต่อสู้กับใจตัวเอง ต่อสู้กับสังคมเพื่อให้สังคมย้อมรับ คน กลับ ตัว กลับ ใจ ควร ให้ กำลังใจกันนะ
เเต่ช่างมันเถอะไม่ว่าคุณจะเป็นผ้าแบบไหนคุณก็ต้องพิจารณาเอาเอง เหมือนกับผู้เขียนที่กำลังพิจารณาดูนี่แหละ
ความมืดในใจของใครของมันนะ ใคร มี ก็ ทุกข์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น