วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

นี่หรือคือ”ชีวิต”


                     คนเราเกิดมาไม่ว่าจะอยู่ในสถานะภาพไหนหรือชนชั้นใดเมื่อเกิดมาแล้วย่อมมีบทบาทหน้าที่ในการดำเนินชีวิตและมีจุดประสงค์ที่ต่างกันจะเห็นได้จากคนในสังคมยุคปัจจุบันที่มีการดิ้นรนเพื่อจะแสวงหาหนทางที่จะไปสู่เป้าหมายที่ตนตั้งไว้โดยลืมนึกถึงชีวิตจิตใจความเป็นอยู่ของบุคคลรอบข้าง
  และเมื่อเกิดปัญหาต่างฝ่ายต่างไม่สนใจกันและกันทำให้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบขาดหายไปสิ่งมีชีวิตที่กล่าวเรียกว่าตนนั้นคือสัตว์ประเสริฐเพราะมีจิตใจที่ฝึกฝนดีแล้วอีกทั้งยังยกระดับให้สูงขึ้นเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งปวงถ้าลองมองและพิจารณาสภาวะการณ์ในปัจจุบันขณะที่เป็นอยู่แล้วยังกล่าวอ้างว่าตนเป็นสัตว์ที่ประเสริฐได้อีกหรือมีชายคนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “ผมเกิดมาในชีวิตผมรู้แค่2อย่างเท่านั้นคือ อย่างแรกคือวันเกิด อย่างที่สองคือวันที่ผมได้ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมทำไมถึงรู้อย่างที่สองได้?ที่รู้ได้ก็เพราะผมพยายามทำและเป็นอยู่ทุกวัน”
ทุกท่านคิดว่าความสมบูรณ์แบบที่สุดของชีวิตจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทำตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้เฉพาะตน
หรือว่าความสมบูรณ์แบบในชีวิตก็คือการสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับสังคมตัวเราเท่านั้นคือผู้กำหนด
“ชีวิตเป็นของเรา”

ตระกูล พันธุ์มาตย

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไม่เป็นไรนะ

ไม่เเปลกเลย
หากวันหนึ่ง...ตื่นมาพร้อมกับ
ความว่างเปล่า

วันที่สิ่งที่คิดไม่เป็น
อย่างที่คิด
สิ่งที่หวังไม่เป็นดั่งที่หวัง
ความฝันที่วาดไว้สูญสลายหายไป

ใจต้องเผชิญกับความเหน็บหนาวที่แสนปวดร้าว

ร่างกายที่ดูแข็งแรง
กับหมดเรี่ยวแรงลงทันใด

หัวใจค่อยๆเต้นช้าลง สายตาพร่ามัว
มองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง

ความรู้สึกกระจัดกระจาย ขาดการควบคุม และ พังทลายลง
จนไม่เหลือชิ้นดี 

ในวันนั้นเธออาจนอนซมอยู่ในห้อง
ไม่อยากกินข้าว กินน้ำ ไม่อยากพบหน้าใคร

อยากอยู่คนเดียวเปิดเพลงเศร้าๆ
คลอเคล้ากับหยดน้ำตา

อารมณ์ถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆที่มืดมิด

ลองดูสิ

ลองเปิดหน้าต่างดูสิ เปิดไปดูแสง
สว่างของโลกที่ยังกว้างใหญ่
มันไม่ได้แคบและมืดมิดเหมือนห้องนี้

ลองเปิดประตูดูสิ เปิดไปเจอคนที่เขารักเธอ
คือ พ่อ แม่ และเพื่อนที่แสนดี
เธอไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างที่คิด

ลองก้าวเท้าออกจากห้องดูสิ
ออกไปสูดอากาศในยามเช้าๆ
มันอาจจะช่วยทำให้ใจเธอสดชื่นขึ้น

ช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวด มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายในขณะนี้

แต่มันจะกลายเป็นแค่ฝันร้าย
เมื่อเวลาผ่านเลยไป

โลกใบนี้ยังมีอะไรมากมาย
รอให้เราได้เรียนรู้

อย่าคิดว่าทั้งหมดของชีวิตจะจบลง
เพียงแค่บางสิ่งในชีวิตเราหายไป

บอกตัวเองเอาไว้....ไม่เป็นไร
แค่นี้เดี๋ยวมันจะผ่านไป

และเรื่องร้ายๆมันจะจางหายไป พร้อมกับกาลเวลา

ก้าวต่อไป ถ้าใจยังไม่หยุดเต้น

เปื้อนฝุ่น


อย่าหลงทาง เส้นเดิมๆ

ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเราหลงทางในที่ที่ไม่เคยไป
#ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเราสอบตกในเมื่อเราไม่อ่านหนังสือ
#ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าเราทำผิดพลาดในสิ่งที่ไม่เคยทำ
#ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าเราลื่นล้มในที่ที่เราไม่รู้ว่ามันลื่น
#ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าเราตกต้นไม้โดยการขึ้นไปแบบไม่ระวัง
#ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าเราเหยียบตะปูโดยที่มองไม่เห็น
#ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าเราผิดหวัง จากการคาดหวัง
#ไม่ใช่เรื่ิองแปลก
ถ้าเราโดยหลอกครั้งแรก ด้วยความเชื่อใจครั้งสุดท้าย
#แต่มันจะเเปลก
ถ้าเราปล่อยให้มันเกิดขึ้น
อีก ครั้งแล้วครั้งเล่า
ปล่อยใหตัวเองจ็บซ้ำๆ
โดยไม่ได้บทเรียนอะไรเลยจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
อย่าลืมเก็บเกี่ยวข้อคิดดีๆจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เอาไว้สอนตัวเอง
ในเวลาที่เจอเรื่องเดิมๆ
#เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรเกิดซ้ำ บาทีการเจ็บครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว
สำหรับใครบางคน
อย่าหลงทาง เส้นเดิมๆ

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไม่ไปเพราะไร้ "คู่"...

ในยุคสมัยสังคมนิยมนี้ "วัยรุ่น" ถือว่าเป็นช่วงวัยที่มีการพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงตามประการณ์การเรียนรู้และกระแสของสังคม ทำให้มีความคิดที่แปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ดังจะเห็นได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมหรือวัฒธรรมประเพณีที่สังคมได้ปฏิบัติสืบต่อกันมานั้นอาทิ การเวียนเทียน หรือแม้กระทั่งการทำบุญตักบาตในวันพระ จะเห็นได้ว่าวัยรุ่นจะเป็นบุคคลกลุ่มน้อยที่เข้าร่วม โดยเหตุผลหลักที่ได้ยินอยู่เป็นประจำก็คือ "ไม่มีคู่" จึงทำให้วัยรุ่นเสียโอกาสในการเรียนรู้และขาดความเข้าใจ ถ้าจะพิจารณาในด้านความรู้สึกของวัยรุ่นแล้ว การไปไหนมาไหนคนเดียวอาจทำให้ขาดความมั่นใจ เขินอาย จึงต้องการคู่หรือเพื่อนไปด้วย แล้วถ้าจะถามกลุ่มวัยรุ่นในปัจจุบันว่า จำเป็นแค่ไหนที่จะต้องมีคู่เพื่อไปเวียนเทียน จำเป็นแค่ไหนที่จะต้องมีคู่เพื่อไปทำบุญตักบาต และถ้าไม่มีคู่จะไม่สามารถทำสิ่งต่างๆได้อย่างนั้นหรือ ดังนั้นการกระทำสิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์หรือเกิดการเรียนรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสมก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมีคู่ไปด้วยเสมอไป อย่าได้อ้างว่าไปไหนไม่ได้เพราะไร้คู่ ลองถามตัวเองดูว่าไม่ไปเพราะไร้คู่ หรือถึงมีคู่ก็ไม่ไป #เด็กไทยอย่าได้เอาความเขินอายมาทำลายโอกาส #เพราะโอกาสไม่ได้มีขายที่ตลาดหรือปิดประกาศตามเสาไฟ

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

มรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย ด้านอาคารสถาปัตยกรรม สมัย ร.๓ กุฏิโบราณ วัดมณีวนาราม

     มรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย ด้านอาคารสถาปัตยกรรม สมัย ร.๓ ที่พระเดชพระคุณพระเทพวราจารย์ เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี นำญาติโยมพุทธศาสนิกชน หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน บูรณะปฏิสังขรณ์ ได้เสร็จสมบูรณ์ ทั้ง๓ หลังแล้ว พร้อมเตรียมจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยต่อไป


กุฏิพระอริยวงศาจารย์ (กุฏิแดง สมัย ร.๓)





กุฏิธรรมรโต




กุฏิใหญ่




ต้นไม้สอนธรรม วัดมณีวนาราม (วัดป่าน้อย) อุบลราชธานี



























































วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ระยะทางกับจุดจบของชีวิต

ถ้าจุดจบของชีวิต 
คือ ความตาย
แสดงว่าทุกสิ่งมีชีวิต

กำลังวิ่งเข้าหาความตาย

ไม่ว่าคนหรือสัตว์ มีสิทธิ์เสมอภาค 
คือ ต้องตายเหมือนกัน 





ระยะทางในการวิ่งเข้าหาความตาย
ของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ถ้าเปรียบเทียบอายุ1ปี
เท่ากับหนึ่งกิโลเมตร 
บางคนวิ่งได้90 ก.ม 
บางคนวิ่งได้ 100ก.ม

บางคนวิ่งได้ไม่กี่สิบกิโล
ก็ถึงความตายเสียแล้ว 
ไม่มีใครรู้ว่าเราจะตาย
ตอนอายุเท่าไร

รู้แค่ต้องตายแน่ๆ
เพราะฉะนั้นจงใช้ระยะทาง
ที่ยังเหลืออยู่ก่อนจะที่ถึงความตาย
อย่างมีคุณค่าแบบไม่ประมาท

ดั่งปัจฉิมพุทโธวาท
โอวาทครั้งสุดท้ายของพระพุทธเจ้าว่า

หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย, บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า 

วะยะธัมมา สังขารา

สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา 


อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ
ท่านทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด 

เราอย่าพากันประมาทเลย
จงทำดี คิดดี พูดดี 
ทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ 
จงใช้ชีวิตให้มีค่า 
ก่อนที่เวลาจะหมดไป

#ทำดีกับคนที่คุณรัก และ คนที่รักคุณ

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

จริงหรือ ?





อยากสบายให้ไปบวชเป็นพระ

นี่คือวลีเด็ดที่ชาวไทยคุ้นหูมาเป็นเวลายาวนา
แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วผู้ที่บวชเป็น
"พระ" นั้นมีบทบาทหน้าที่หลายอย่างที่พึงกระทำอาทิ

ลงอุโบสถ บิณฑบาตเลี้ยงชีพ สวดมนต์ไหว้พระ

กวาดอาวาสวิหารลานเจดีย์ รักษาผ้าครอง

อยู่ปริวาสกรรม โกนผมปลงหนวดตัดเล็บ

ศึกษาสิกขาบทและปฏิบัติพระอาจารย์

เทศนาบัติ พิจารณาปัจจเวกขณะทั้ง ๔ เป็นต้น

และยังไม่รวมถึงการพิจารณาบุคคลผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะบวชเป็นพระด้วย
ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
ถึงกระนั้นบางคนยังคงกล่าววลีนี้ได้อย่างเต็มเสียงและยังคงมีความเข้าใจแบบผิดๆ มีข้อพิจารณาอยู่ว่า เมื่อบวชเป็นพระแล้วสบาย
ไฉนชายชาตรีทั้งหลายไม่ใคร่ที่จะบวชเพื่อปฏิบัติกิจดังกล่าวเล่า เพราะเหตุใดบุรุษทั้งหลายใคร่จะเป็นผู้ครองเรือนทั้งที่รู้ว่าชีวิตจะลำบาก
ดังนั้นท่านทั้งหลายจงพินิจพิจารณาใหม่เสียเถิดว่า บุคคลผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุนั้น มิได้ง่ายอย่างใจคิดและมิได้สบายอย่างคำที่กล่าว
เพราะนอกจากจะปฏิบัติตามกิจข้างต้นแล้ว ยังมีกิจอื่นๆที่พึงกระทำเพื่อจะดำรงซึ่งพระศาสนาให้คงอยู่สืบไป
ผู้ที่หวังว่าจะสบายในการบวชเป็นพระ "จะทนไหวหรือ"


เขียนโดย ตระกูล พันธุ์มาตย์

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

คืนความสุขให้หัวใจตัวเอง

เหนื่อยไหมหัวใจ
ใช้งานมันหนักเกินไปไหม
ให้มันได้พักผ่อนบ้าง
ในหนึ่งวันคุณถอนหายใจไปกี่ครั้ง
การแแบกความรู้สึกที่หนักอึ่ง
ทำให้ใจคุณอาจเหนื่อยล้า
หนักบ้างไหมที่เก็บเอาเศษความรู้สึก
ของคนอื่นเอามาขบคิดจนปวดหัว
เหนื่อยไหมที่เก็บเอาคำพูดที่ไร้สาระเก็บมาคิด
เหนื่อยบ้างไหมที่ต้องวิ่งตามในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา
กายเหนื่อยพักเดี๋ยวก็หาย 
แต่ใจเหนื่อยพักนานเท่าไร
ก็ยากที่จะหาย
อะไรที่มันทำให้หนักหัวใจก็ปล่อยมันไปบ้าง
ความรู้สึกไหนที่มันทำให้ใจเจ็บปวดก็ปล่อยเสียบ้าง
ความคิดไหนที่มันทำให้ปวดหัวก็อย่าไปคิด
ทำตัวเป็นคนที่ไร้สาระสักวัน ปล่อยทุกอย่างไปสักพัก
อยากทำอะไรก็ทำ ทำแล้วถ้าสบายใจ 
และไม่ทำร้ายคนอื่น

ให้เวลากับตัวเอง  ดูแลตัวเอง รักตัวเองให้มากขึ้น 
คืนความสุขให้กับหัวใจตัวเอง
ปล่อยใจให้สบายๆ ไม่ต้องบังคับมัน

นั่งหายใจ  เข้าออกช้าๆ แล้วถามตัวเองว่า
สิ่งที่เราทำไปมันคืออะไร เราจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อไม่ให้ใจทุกข์

อย่าแบกความรู้สึกที่ทำให้เราเป็นทุกข็โดยเปล่าประโยชน์ ควรเรียนรู้ข้อคิดจากมัน

เหนื่อยก็พักหนักก็วาง
วางมันไว้ให้ไกลๆ
ให้ใจมันว่างเปล่า  จากความคิดใดๆ
พอใจมันหายเหนื่อย  หายเจ็บปวด
มันจะลุกขึ้นมาจากความเจ็บปวดนั้น
อย่าเข้มแข็ง เหมือนกระบี่ที่ผ่านไฟมาแล้ว

จงดูแลมันให้ดีๆอย่าให้มันเหนื่อย
มากเกินไป เพราะมันก็เหนื่อยเป็นนะ
ใจเรา  เราควรรักษามันด้วยตนเอง
ดูแลมันให้ดีๆละ อย่าให้คนอื่นทำร้ายเอาง่ายๆ
 และอีกอย่าง  อย่าทำร้ายจิตใจตัวเองด้วยการดูถูกตัวเอง
รักษาใจให้ดี อย่าปล่อยให้ใจเจ็บนาน คืนความสุขให้มันเสียบ้าง เราไม่ได้เกิดมาเพื่อทุกข์ขนาดนั้น

จะสุขจะทุกข์ก็อยู่ที่ใจ

...เปื้อนฝุ่น

แค่นี้แหละชีวิต


ชีวิตต้องการอะไร
อันทีจริงใจเราต่างหากที่ต้องการ

ชีวิตหนึ่งชีวิตจะต้องการอะไรให้มันมากมาย
ให้มันวุ่นวาย



หากทุกอย่างในชีวิต
มันได้ดั่งใจเราทุกอย่าง
คงไม่รู้จักคุณค่า
ของคำว่า..พยายาม



ชีวิตมีหลายรสชาติ
สุขทุกข์เศร้าเหงาเสียใจ
มันก็เป็นรสชาติของชีวิต



เมื่อประสบปัญหาที่เราคิดว่ามันใหญ่
อีกนิดเดี๋ยวมันก็ผ่านไป



สิ่งใดที่มันทำให้รกสมองก็ทิ้งๆมัน
ไป สิ่งใดที่มันทำให้เจ็บและเสียใจ
ลืมมันไปชะ



ชีวิตเราต้องเดินหน้าต่อไปอย่าหยุดเดิน
เพียงเพราะบางสิ่งบางอย่าง



ถ้าสิ่งใดที่คิดว่ามันไม่ใช่...ก็ถอยออกมาให้ไกล
สิ่งใดที่คิดว่าใช่ก็เดินหน้าต่อไปให้เร็ว



แล้วอย่าลืมไปว่าไม่มีคำว่าตลอดไป
สำหรับอะไรทั้งนั้น ไม่มีอะไรยั่งยืน
ไม่มีอะไรมั่นคง ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิตนี้



อย่ายึดติดกับอะไรให้มากเกินไป
เพราะสุดท้ายความลำพังก็เป็นของเรา
เหมือนเดิม

ชีวิตมันไม่ได้ต้องการอะไรมากมายมายหรอก
ใจเราต่างหากที่ต้องการ  ความต้องการนี่แหละ
มันทำให้ชีวิตเรายุ่งยากไม่จักจบ จักสิ้น

ถ้าใจพอ ชีวิตก็พอ 
ถ้าใจเต็ม ชีวิตก็เต็ม 
ถ้าใจสุข  ชีวิตก็สุข


ก็แค่นั้นเองเนาะ

รู้เท่าทันนั้น คือ สติ


บางคนอาจไม่เข้าใจ
ความหมายของคำว่า..สติ
ที่ได้ยินคนพูดกันบ่อยๆคือ ต้องมีสติ
และอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยาก
ที่ต้องเรียนต้องศึกษา
และรู้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
อันที่จริงสตินั้นมีอยู่ในตัวของเราทุกคน
อยู่ที่ว่าเราจะเอาออกมาใช้ตอนไหน
ในเวลาที่คับขันถ้าเราขาดสติ 
#อาจทำเรื่องเล็ก ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
#อาจทำเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องยากได้
พจนานุกรมฉบับพุทธศาสตร์ 
ของพระพรหมคุณาภรณ์( ป.อ. ปยุตฺโต)
ได้ให้ความหมายของ #สติ ว่า
ความระลึกได้ นึกได้ ไม่เผลอ
คือรู้เท่าทันในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่
#รู้เท่าทันกายเคลื่อนไหว
#รู้เท่าทันวาจาที่กำลังจะพูด
#รู้เท่าทันใจที่นึกคิด
ฉะนั้นแค่เรารู้เท่าทัน กาย วาจา ใจ
ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
อะไรควรพูด ไม่ควรพูด อะไรควรคิด 
ไม่ควรคิด นั้นคือมีสติ
#สติคือเครื่องควบคุมการกระทำชั้นดีเลยทีเดียว
#เปื้อนฝุ่น

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บทเรียนราคาแพง


....ความผิดพลาดในอดีตเป็นบทเรียนที่สำคัญที่คอยสอนเราอยู่ตลอดเวลา การตัดสินใจผิดพลาดในอดีตกลายมาเป็นจุดด้อยที่คอยตอกย้ำให้เจ็บปวดเวลานึกถึงมัน



....บางครั้งมันก็ทำให้เรากลัวไม่กล้าทำสิ่งนั้นอีก เพราะกลัวมันจะผิดหวังซ้ำซาก ความเจ็บปวดคอยกระซิบข้างๆหูอยู่เสมอว่า #อย่านะ #อย่าทำอีกนะ เเต่บางครั้งก็ยังไม่จำเลยต้องลงเอ่ยแบบเดิมซ้ำๆ
...ความสำเร็จของคนอื่นมันทำให้น่าวิ่งตาม อยากได้ อยากมี อยากเป็นเหมือนดั่งเขา จนลืมความสามารถของตนเอง 


....เหมือนกับเรือสามารถวิ่งได้เร็วเมื่อตอนมันอยู่ในน้ำ แต่ถ้าเอามันขึ้นมาบนบก วิ่งเเข่งกับรถมันก็แพ้อยู่ดี ข้อนี้แสดงให้เห็นว่าบางสิ่งบางอย่างคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ใช้ได้ไม่เหมือนกัน คนเราก็เช่นกัน
...ฉะนั้นเราควรเอาบทเรียนราคาแพงที่เคยผิดพลาดมาสอนเรา มันอาจจะทำให้เรารู้จักตนเองมากขึ้นกว่าเดิม และไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

#รู้จักคนอื่น ก็ไม่เท่ารู้จักตนเอง

ถึงเวลาต้องเรียนรู้

...สิ่งที่ควรศึกษาก่อนสิ่งอื่นใด
ไม่ใช่ตำรา ไม่ใช่ปริญญา 
แต่คือใจของเราเอง

เมื่อใจเราไม่ชัดเจน 
อะไรๆในชีวิตก็จะเลือนล่าง
เมฆหมอกเเห่งความรู้สึกด้านลบ
เข้ามาครอบครองพื้นที่ของความคิด

บาทีเราอาจพยายามมากเกินไป
ที่จะเอาใจคนอื่น จนเสียสมดุล
ในความเป็นตัวตนของเราเอง
ใจเราบาทีก็ยังวิ่งตามมันไม่ทัน
นับประสาอะไรใจคนอื่น

ใจมันวิ่งเร็ว กว่า4G. วิ่งเร็วกว่าทุกสิ่งในโลก
กายยืนอยู่ตรงนี้แต่มันกลับคิดไปไกลแสนไกล
การวิ่งตามใจคนอื่น 
เพื่อจะให้เขาพอใจในสิ่งที่เราทำ

ถูกใจ กับ ถูกต้อง เราควรเลือกอะไร
ใช่ กับ ชอบ อะไรสำคัญกว่ากัน
ถูกต้องเราอาจไม่ถูกใจเขา
ใช่ แต่เขาไม่ชอบ

ใจเราต่างหากเป็นสิ่งที่ควรตามหา 
ไม่ใช่ใจคนอื่น เมื่อใจเราชัดเจน
อะไรๆทุกอย่างในชีวิตก็จะชัดเจนขึ้น

เวลาชีวิตที่เหลืออันน้อยนิดควรรีบ
เพราะไม่รู้วันไหนชีวิตนี้จะถึงอวสาน
ควรทิ้งสิ่งที่ไร้สาระ ควรปล่อยสิ่ง
ที่ทำให้เราเจ็บปวด แล้วก้าวไปอย่าง
เข้มแข็ง

#ตามหาให้มันเจอ ก่อนจะเอ่ยคำว่า
"น่าเสียดายจัง"

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2559

แล้วมันจะผ่านไปจริงๆ


           
    

               สักวันหากคุณเจอเรื่องราวร้ายๆ  ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  เรื่องที่คุณไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้    หรือมันเกินที่จะทนไหว     รับได้หรือไม่ได้ในสิ่งที่เกิดขึ้น   แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำให้ได้คือ ทำใจยอมรับสิ่งที่มันเกิดขึ้น

        ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องยาก แต่คุณต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้     ไม่ว่าจะเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม  
ในขณะนั้นคุณอาจเจ็บปวดแทบล้มประดาตายกับสิ่งที่หวังแล้วไม่เป็นไปตามหวัง     คุณอาจจะโทษ
โชคชะตาว่าเหตุใดมันถึงเกิดขึ้นกับคุณ  และทำไมคุณถึงเป็นคนโชคร้ายขนาดนั้น
       อันที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้เกิดแค่กับคุณคนเดียว   มันเกิดกับทุกๆคน  ตามกฎไตรลักษณ์ของพระพุทธองค์ได้ตรัสไว้อนิจจัง ไม่เที่ยงทุกขัง เป็นทุกข์อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน    ทุกๆอย่างก็เช่นกัน
              คุณรู้ว่ามันต้องเป็นอย่างงั้น  มันต้องเกิดขึ้นแน่นอน   มีรักก็ต้องมีเลิก มีสุขก็ต้องมีทุกข์ มีสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง   ต้องยอมรับมันให้ได้ไม่ว่าจะดี หรือร้ายก็ตาม  
           เมื่อช่วงเวลานั้นผ่านไปคุณจะรู้ว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด และตอนนั้นมันอาจสำคัญแต่ตอนนี้
อาจดูไร้ค่าสิ้นดีเชื่อเถอะสักวันมันก็ผ่านไปจริงๆสักวันเราจะได้เริ่มต้นใหม่  เข้มเเข็งไว้นะหัวใจ สักวันหนึ่งฉันจะผ่านมันไปให้ได้  สู้ๆจงบอกกับตัวเอง 

#เปื้อนฝุ่น

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559

กราบพระแก้วโกเมนเมืองอุบลฯ



     สวัสดีครับไม่ทราบว่าทุกท่านเคยมาเมืองอุบลหรือเปล่า  เมืองอุบลขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองนักปราชญ์ เพราะดูจากเมืองอุบลนั้นเป็นเมืองที่รุ่งเรืองด้วยพระพุทธศาสนามีวัดมากมาย ถ้าทุกท่านมา  ผมขอแนะนำวัดนี้เลยนะครับ 
วัดมณีวนาราม หรือว่า วัดป่าน้อย อารามแห่งพระเเก้วโกเมน







         วัดมณีวนาราม (วัดป่าน้อย) ตั้งอยู่ถนนหลวง อยู่ระหว่างวัดมหาวนารามกับวัดทุ่งศรีเมืองนะครับ ตามประวัติสร้างเมื่อ  ประมาณ พ.ศ.2332 ผู้สร้างคือ อุปฮาดก่ำ โอรสพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง)

       และวัดนี้มีพระคู่บ้านคู่เมืองคู่อุบลราชธานี   อีกองค์หนึ่งนั้นคือ พระแก้วโกเมน เป็นพระบูชาปางมารวิชัยขนาดหน้าตัก กว้าง 4 นิ้ว สูงประมาณ 5 นิ้ว


พระเเก้วโกเมน

             สันนิษฐานว่า พระแก้วโกแมน องค์นี้ได้อุบัติขึ้นมาพร้อมกับพระแก้วบุษราคัม ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม พระแก้วโกเมน เป็นพระพุทธรูปอัญมณีในตระกูล “นพรัตนชาติ” คือ แก้วเก้าประการ อันได้แก่ สีขาวผ่องเพชรดี ทับทิมสีมณีแดง เขียวใสแสงมรกตเหลือใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก





       ถ้าท่านใดมาช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ หรือสงกรานต์ จะได้กราบสักการะพระเเก้วโกเมนองค์จริง ซึ่งจะอัญเชิญมาประดิษฐาน  ณ บุษบก  ให้สาธุชนได้กราบขอพร หรือ  สงน้ำในช่วงเดือนเมษายน




         ถ้าไม่ว่างช่วงเทศกาลสามารถมาได้ทุกวันนะครับ เพราะมีพระเเก้วโกเมนองค์จำลองให้เราได้ไปกราบทุกวัน พระเเก้วโกเมนองค์จำลองจะประดิษฐาน ณ วิหารหอพระเเก้วโกเมน


วิหารหอพระแก้วโกเมน


           วัดนนี้นะครับถ้าทุกท่านมาเมืองอุบลแล้วไม่แวะจะน่าเสียดายมากเลย     และที่นี้ยังมีกุฏิโบราณซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓  คือ กุฏิแดง หรือกุฏิพระอริยวงศาจารย์ และยังมีกุฏิโบราณอีกสองหลังที่เปิดให้เราไปชมของโบราณ อาทิเช่น คัมภีร์ใบลาน ตู้พระไตรปิฎกเก่า และอีกมากมาย   


       และสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณภาพสวยๆจาก ไกด์อุบล และขอให้พระเเก้วโกเมนปกปักรักษาทุกท่านให้มีแต่ความสุข ความเจริญ


สวัสดีครับ

สุขอีหลีอยู่ที่ความพอใจ

...ความสุข
มันไม่ได้อยู่ที่เงินทองมากมาย แต่ขอแค่มีพอใช้ก็พอ
...ความสุข
มันไม่ได้อยู่ที่รถราคาแพงๆ 
แต่ขอแค่นั่งแล้วปลอดภัยก็พอ
...ความสุข
มันไม่ได้อยู่ที่อาหารเลิศรสราคาสูงๆ
แต่ขอแค่กินแล้วอิ่มก็พอ
...ความสุข
มันไม่ได้อยู่ที่บ้านราคาแพงๆ
แต่ขอแค่นอนแล้วหลับสบายก็พอ
...ความสุข
มันไม่ได้อยู่ที่ให้คนทุกคนมารักเรา
แต่ขอแค่คนที่เรารักรักเราก็พอ
...ความสุข
มันไม่ได้อยู่ที่ทุกสิ่งที่เราอยากได้ แต่มันอยู่ที่ความพอใจในสิ่งที่เรามี

ความพอดีจะทำให้ใจเรามีความสุข ไม่ต้องวิ่งตามความอยากจนเป็นทุกข์ ที่เกิดจากความไม่พอ เพราะความสุขที่แท้จริง
....อยู่ที่ความพอใจ

โพสต์แนะนำ

แล้วมันจะผ่านไปจริงๆ

                                สักวันหากคุณเจอ เรื่องราวร้ายๆ   ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  เรื่องที่คุณไม่สามารถ แก้ไขอะไรมันได้   ...