ทุกวันต้องทำอะไรหลายอย่าง ตามสาขาอาชีพของตน สิ่งหนึ่งที่ต้องพบเจออยู่เป็นประจำคือผู้คนในสังคม ที่เราเข้าไปคลุกคลีด้วย ล้วนมีความคิดนิสัยใจคอที่แตกต่างกันไป
เราจะอยู่ในความแตกต่างอย่างมีความสุข
โดยไม่มี ทุกข์ได้อย่างไร
การที่เราจะอยู่ในสังคมที่แตกต่างได้นั้น สิ่งเเรกที่ควรทำ คือ ต้องเปิดใจให้กว้างๆ ยอมรับความแตกต่างของตัวละคน ให้คิดเสียว่า
หน้าตาเราแตกต่างกันกับเขาฉันใด
จิตใจเขาย่อมแตกต่างกันฉันนั้น
ถ้าเป็นคนใจกว้างจะสามารถอยู่กับคนทุกคนได้อย่างมีความสุข
เพราะคนใจกว้างจะสามารถเรียนรู้และยอมรับ
ความแตกต่างของแต่ละบุคคลที่อยู่รอบตัวเขา
คนใจกว้าง คือ
คนที่มีความสุขที่สุดในโลก
ถ้าจิตใจมีธรรมะ
คำถามคือ...ใจจะกว้างได้อย่างไร?
โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่เราเห็นกันอยู่ว่ามันยากยิ่งหนักในการเปิดใจให้กว้างๆ
เราจะทำอย่างไรให้เป็นใจกว้างอย่างมีความสุข พระพุทธองค์ได้ตรัสหลักธรรม ๔ ประการ เป็นหลักปฏิบัติที่จะทำให้อยู่ร่วมกันกับคนอื่นได้อย่างไร้ความทุกข์
นั้นก็ คือ พรหมวิหารธรรม
๔
เมตตา ปรารถนาดีต่อคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนสนิทหรือไม่สนิทก็ตาม รู้จักหรือไม่รู้จัก แผ่เมตตาไมตรีให้กับเพื่อนร่วมทุกคน
กรุณา
ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก อย่างไม่มีข้อแม้
ตามโอกาสที่เหมาะสม โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
มุทิตา
ยินดีเสมอเมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ ไม่คิดริษยา
อุเบกขา
รู้จักนิ่งในสิ่งที่ควรนิ่ง เฉยในสิ่งที่ควรเฉย วางตัวเป็นกลางเสมอ
ลองสำรวจตัวเองดูสิ ว่าคุณมีครบไหม? ครบไม่ครบคุณรู้อยู่แก่ใจ
ถ้าประกอบด้วยธรรม ทั้ง๔ประการนี้
เราก็จะอยู่ในความแตกต่างได้อย่างมีความสุข เปิดใจให้กว้างๆ
จะได้รู้ว่าคนข้างๆสำคัญเพียงใด เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะจากเราไปวันใด
จะรู้ว่าใครใจกว้างให้ดูคนข้างๆของเขา
คนข้างๆคือคนที่เข้ามาคบหาสมาคม
ถ้ามีคนให้ความเคารพนับหน้าถือตามาก อยากพึงพาบารมี นั่นแหละใช่
...ตรงข้ามกับคนใจแคบที่ไม่มีใครเขาอยากคบ เพราะจิตใจที่เต็มไปด้วยอคติความเกลียดทั้งหลาย
ไร้น้ำใจเห็นแก่ตัว ใครทำอะไรก็คอยจ้องจะจับผิด ไม่มีใครดีนอกจากตัวเอง
ความชั่วของคนอื่นรู้หมดยกเว้นความชั่วของตัวเอง
...คนแบบนี้ย่อมไม่มีใครเขาอยากคบ
เพราะแล้งน้ำใจ คนใจแคบเหมือนสระที่แห้งแล้ง ย่อมไม่มีปูปลาอยากอยู่อาศัยด้วย
...ส่วนคนใจกว้าง เปรียบเสมือนสระที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ย่อมมีสัตว์น้ำปูปลาพึงพาอาศัยฉันใด คนมีน้ำใจ ย่อมมีคนเคารพนับถือฉันนั้น
เหมือนโฆษณาชิ้นหนึ่งชายผู้หนึ่งที่ทำงานโรงงานเงินเดือนก็ไม่มากมายพอได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง
วันหนึ่งขณะที่กำลังเดินทางไปทำงาน เขาเห็นสองแม่ลูกนั่งขอทานอยู่ข้างถนน เนื้อตัวมอมแมม ใส่เสื้อผ้าขาดๆ ข้างหน้าของเด็กคนนั้นมีป้ายเขียนไว้ว่า เพื่อการศึกษาของเด็ก.
..หลังจากนั้นเขาก็ให้เงินเด็กขอทานคนนั้นทุกวันๆ
ผู้คนละแวกนั้นต่างมองว่าเขาเป็นบ้า
ตัวเองยังไม่มีจะกินอยู่แล้ว แต่ยังอวดดีไปช่วยเด็กขอทานน่าสมเพชอีก
...อันที่จริงเขาก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ไม่ได้รวยขึ้น ไม่ได้อยู่สุขสบาย
แต่เขาได้ในสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ คือ ความรู้สึกดีๆ เมื่อได้เห็นเด็กขอทานคนนั้นได้เรียนหนังสือดั่งตั้งใจ
หลังจากนั้นผู้คนต่างก็ชื่นชม เพราะความใจกว้างของเขา
เด็กคนนี้จึงได้เรียนหนังสือ
ลองนึกดูสิว่า ถ้าชายคนนี้ใจแคบ เด็กคนนี้จะได้เรียนหนังสือไหม?
ทั้งๆที่เขากับเด็กคนนั้นมีไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่ใช่ญาติพี่น้อง
แต่เขาก็ยังช่วยเหลืออย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน
ฉะนั้นเราควรเปิดใจให้กว้างๆ
เพื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา ความแตกต่างทางด้านความคิด
หน้าตา ฐานะไม่ใช่ปัญหา ถ้าเราอยู่ในสังคมด้วยใจที่มีเมตตาอารีคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เพราะเราทุกคนคือเพื่อนร่วมโลกใบเดียวกัน ต่างรักสุขเกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น อย่าเอาความคิดที่แตกต่างมาทำร้ายซึ่งกันและกันเลย เพระทุกคนต่างมีเหตุเป็นของตัวเอง
วันนี้เราได้เจอเขาควรทำดีต่อกัน วันข้างหน้าเราไม่รู้หรอกว่าจะได้เจอเขาอีกไหม และอาจจะไม่ได้เจอเขาตลอดชีวิตก็เป็นได้
คนใจกว้าง คือ
คนที่มีความสุขที่สุดในโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น