กุฏิหลังนี้ ตั้งอยู่ในเขตสังฆาวาส
ด้านทิศเหนือของวัด ในบรรดากุฏิทั้ง ๔ หลัง เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา ตามแถวถนน เป็นกุฏิหลังที่สอง
ข้อมูลทางวัดระบุว่า “...กว้าง ๗ เมตร ยาว ๙ เมตร...” (เทพมงคลเมธี, พระ, ๒๕๓๐: ๖)
ลักษณะเป็นอาคารไม้กระดานยกพื้นสูง มีใต้ถุนสูง
หลังคาทรงจั่ว ลาดเตี้ย ส่วนเสาใต้ถุนเป็นเสาไม้ ตัวเรือนก่อเป็นฝาไม้กระดานตีเป็นผนังอาคาร
ขนาด ๓ ห้อง โดยฝาผนังส่วนใต้หน้าต่าง
ตีเป็นฝาไม้กระดานในแนวนอนส่วนผนังระหว่างหน้าต่างจรดผนังเรือนด้านบนสุดตีเป็นฝาไม้กระดานในแนวตั้ง
มีการเจาะช่องหน้าต่างกับบานกระจกใสไว้เหนือช่องหน้าต่าง
ส่วนตัวเรือนภายในมีการกันห้องออกเป็น ๓ ห้อง โดยแต่ละห้องมีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว ตัวเรือนมีการทำชานด้านหน้าต่อออกเป็นมุข เป็นชานโปร่ง มีการทำระเบียงเจาะลูกกรงให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ส่วนชานมีการทำบันไดขึ้นสู่ชานและตัวเรือน
๑ ทาง โดยวางตัวในแนวขนานติดกับชานด้านหน้า ทั้งนี้ ส่วนหลังคาทรงจั่วข้างต้นลาดคลุมทั้งส่วนตัวเรือนและส่วนชานด้วย
โดยจั่วที่สูงที่สุดจะวางตัวในแนวนอนในส่วนเรือนที่เหนือชานประดับป้ายชื่อกุฏิ
ด้วยอักษรไทย จำนวน ๔ บรรทัด ความว่า “...กุฏิมหาดิลก พ.อ.ฑิน มหาดิลก
สร้างอุทิศแด่ นายเรือง นางคูณ หาริษาวรรณ และนางพันธ์ จุลกนิษฐ์ ๕ กรกฎาคม
๒๕๑๓...”
กุฏิมหาดิลก ตั้งชื่อตามนามสกุลของท่านผู้บริจาคทรัพย์สร้างกุฏิขึ้น
คือ พ.อ.ฑิน มหาดิลก (ชื่อท่านอ่านว่า “ทิน”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออุทิศกุศลบุญ
แด่ นายเรือง หาริษาวรรณ นางคูณ หาริษาวรรณ และนางพันธ์ จุลกนิษฐ์ เมื่อปี พ.ศ.
๒๕๑๓ ตามที่ระบุไว้ในป้ายหน้ากุฏิ
อนุสรณ์อีกแห่งภายในวัดนี้นอกจากกุฏิมหาดิลก
แล้วคือซุ้มประตูวัดทิศใต้ หรือ ประตูมหาดิลก ซึ่งใช้เป็นทางเข้าของโรงเรียนอุบลวิทยากร
และของวัดมณีวนาราม ด้านติดกับถนนพโลรังฤทธิ์ และวัดทุ่งศรีเมือง
ประตูโขงนี้
ยังเป็นที่บรรจุอัฐิบุคคลที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวคุณนายมาลัย มหาดิลก ได้แก่
คุณแม่คูณ หาริษาวรรณ คุณแม่พันธ์ จุลกนิษฐ์
คุณนายมาลัย มหาดิลก คุณยายตุ้มทอง นิลทวี ซึ่งจากจารึกที่ป้ายบรรจุอัฐิทำให้ทราบว่า
คุณนายมาลัย มหาดิลก เกิดเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ และเสียชีวิต
เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ สิริอายุ ๖๗ ปี
ภาพ: พระมหานิกร โสภโณ
ณัฐพงค์ มั่นคง[3], จิรวัฒน์ ตั้งจิตรเจริญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น