เด็กน้อยอายุไม่ถึงสิบขวบ อำลาจากอ้อมกอดพ่อแม่มุ่งหน้าสู่ร่มเงาของพระบวรพุทธศาสนา สลัดเสื้อผ้า เปลียนมาห่มผ้ากาสาวพัสตร์ รับไตรสรณคมน์และศีลสิบ กลายมาเป็นสามเณร
สามเณร เหล่าก่อแห่งสมณะ คือผู้ที่อายุยังน้อยไม่สามารถอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้ คนที่จะบวชเป็นสามเณรได้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าเจ็ดปีพอช่วยเหลือตัวเอง
พอบวชแล้วต้องรักษาศีลสิบ ทำกิจวัตรให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เล่าเรียนคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งนักธรรมและบาลี ตามสมควรของสติปัญญา
ในปัจจุบันมีสามเณรมากมายนิยมบวชเรียน เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและช่วยเเบ่งเบาภาระทางครอบครัวไปด้วย
เด็กอายุเเปดเก้าขวบ จากพ่อแม่มาอยู่วัด ถ้าใจไม่เเข็งพอก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะในวัดนั้นต้องมีกิจวัตรมากมายที่ต้องทำ เช่น ตื่นเช้าตั้งแต่ตีห้าไปบิณฑบาต หกโมงเช้าไปกวาดลานวัด เจ็ดโมงครึ่งไปทำวัตร แปดโมงถึงสามโมงเย็นไปเรียนทางโลก หกโมงเย็นถึงทุ่มหนึ่ง เรียนนักธรรม หนึ่งทุ่มถึงสองทุ่มเรียนพระบาลี หลังจากนั้นก็ต้องท่องหนังสือส่งจนดึกดืนกว่าจะได้นอน นี้คือวิถีชีวิตของสามเณรน้อยที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน
ผู้เขียนเคยถามว่า คิดถึงบ้านไหม คิดถึงสามเณรตอบ เลยถามต่อไปอีกว่า อยากกลับบ้านไหมคำตอบที่ได้เป็นไปอย่างไม่คาดคิด สามเณรน้อยตอบด้วยความมั่นใจว่า...ไม่อยากกลับ คิดถึงบ้านแต่ไม่อยากกลับ สาเหตุนั้นเป็นเพราะอะไรไม่อาจล่วงรู้ได้ แต่สามเณร ก็คือ เด็กคนหนึ่ง ย่อมมีดื้อมีชนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
ในสมัยพุทธกาลมีสามเณรน้อยเช่นกัน อายุเเค่เจ็ดขวบบำเพ็ญสมณธรรมจนได้บรรลุพระอรหัตผล ชื่อว่า สามเณรบัณฑิต
สามเณรบัณทิตเกิดในตระกูลปัฎฐากของพระสารีบุตร เมื่ออายุเจ็ดขวบก็ได้บวชเป็นสามเณรโดยมีพระสารีบุตรเป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่มาวันหนึ่งได้ออกบิณฑบาตกับพระสารีบุตร ได้เกิดความสงสัยเมื่อเห็นคนชักน้ำจากเหมืองจึงได้ถามพระเถระว่า ''น้ำมีจิตใจหรือไม่''
''"น้ำไม่มีจิตใจ'' พระเถระตอบ สามเณรจึงคิดว่า เมื่อคนสามารถชักน้ำซึ่งไม่มีจิตใจไปสู่ที่ที่ตนเองต้องการได้ แต่เหตุใดจึงไม่สามารถบังคับจิตให้อยู่ในอำนาจได้''
เดินต่อไปอีกสักพักก็เจอคนกำลังถากไม้จะทำเกวียนเลยถามพระเถระอีกว่า "ไม้นั้นมีจิตใจหรือไม่" พระเถระก็ตอบเหมือนเดิมว่า"ไม้ไม่มีจิตใจ" คนสามารถนำเอาท่อนไม้ที่ไม่มีจิตใจมาทำเป็นล้อได้ แต่ทำไมไม่สามารถบังคับจิตใจได้ สามเณรคิดเมื่อได้ฟังคำตอบ
พอเดินไปอีกหน่อยก็เจอคนกำลังใช้ไฟดัดลูกธนู สามเณรก็เกิดความสงสัยอีกครั้งเลยถามพระเถระว่า "ลูกศรนั้นมีจิตใจหรือไม่" พระเถระตอบว่า "ลูกศรไม่มีจิตใจ" เมื่อได้ฟังคำตอบจากพระเถระจึงคิดว่า คนสามารถดัดลูกศรให้ตรงได้ แต่ไม่สามารถบังคับจิตให้อยู่ในอำนาจได้
หลังจากนั้นสามเณรก็เกิดความคิดจะปฏิบัติสมณธรรมเลยขอพระเถระให้นำอาหารมาฝาก พระเถระรับปากและให้สามเณรบัณบัติไปปฏิธรรม ที่วัด
ขณะสามเณรปฏิบัติธรรมได้มีท้าวสักกะและท้าวมหาราชทั้ง ๔ มาอารักขาทำให้วัดเกิดความสงบเลยทำให้จิตใจของสามเณรนั้นเเน่วเเน่จนบรรลุอนาคามิผล
พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยพระญาณ จึงดำริว่าหากพระองค์ไม่เสด็จไปอารักขา สามเณรบัณฑิบจะไม่สามารถบรรลุพระอรหันต์ได้จึงเสด็จไปอารักขาที่ซุ้มประตูวัด เมื่อพระสารีบุตรมาถึงตรัสถามปัญหา ๔ ข้อระหว่างที่พระพุทธเจ้าตรัสถามปัญหากับพระสารีบุตรนั้น สามเณรได้บำเพ็ญเพียรสมณธรรมและได้บรรลุพระอรหัตผลแล้ว
นี้คือสามเณรตัวอย่างในสมัยพุทธกาลอายุแค่เจ็ดขวบแต่ปฏิบัติสมณธรรมจนได้บรรลุพระอรหัตผล
ในสมัยปัจจุบันถึงแม้จะไม่มีสามเณอรหันต์ปรากฎขึ้น แต่สามเณรน้อยเหล่านี้เมื่อพวกเขาตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ถูกดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เมื่อเขาโตขึ้นถ้าไม่ลาสิกขา ก็จะได้เป็นกำลังหลักของพระพุทธศาสนา แต่ถ้าลาสิกขาพวกเขาก็จะเป็นเยาวชนคนดีของสังคมสืบไป
วีถีของสามเณรน้อย เหล่าก่อแห่งสมณะ ผู้จากบ้านมาเพื่อศึกษาเล่าเรียน หวังเป็นที่พึงและเเบ่งเบาภาระของครอบครัว อนาคตไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าทิศทางของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ก็ต้องรอดูตออนต่อไป
...เปื้อนฝุ่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น